วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติจังหวัดเชียงราย

              เมืองเชียงรายเกิดขึ้นเมื่อพญามังรายได้ทรงรวบรวมหัวเมืองฝ่ายเหนือในอาณาเขตรอบ ๆ ได้แล้ว จึงทรงกรีฑาทัพไปแสดงฝีมือในการยุทธต่อหัวเมืองฝ่ายใต้ลงมา จึงได้ไปรวมพล ณ เมืองลาวกู่เต้า และหมอควาญได้นำช้างมงคลของพญามังรายไปทอด (ผูก) ไว้ในป่าหัวดอยทิศตะวันออกพลัดหายไป พญามังราย จึงได้เสด็จติดตามรอยช้างไปจนถึงดอยทองริมแม่น้ำกกนัทธี ได้ทัศนาการเห็นภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม อุดมสมบูรณ์เป็นชัยภูมิที่ดี จึงได้สร้างเมืองใหม่ ขึ้นในที่นั่น ให้ก่อปราการโอบเอาดอยจอมทองไว้ในท่ามกลางเมือง ขนานนามเมืองว่า “เวียงเชียงราย” ตามพระนามของพญามังรายผู้สร้าง เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 1805 ดังนั้น จึงได้นำรูปช้างสีขาวใต้เมฆแห่งความรุ่งเรือง และอยู่เย็นเป็นสุข บนพื้นสีม่วงของ วันเสาร์ซึ่งตรงกับวันประสูติของพญาเม็งราย เป็นสีประจำจังหวัด
จังหวัดเชียงราย
             จังหวัดเชียงราย : ตั้งอยู่ภาคเหนือของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพฯ 785 ก.ม. มีเนื้อที่ประมาณ 11,678.369 ตร.ก.ม. หรือประมาณ 7,298,981 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้



 

ทิศเหนือ ติดต่อกับ ประเทศสหภาพพม่า และประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว

ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดลำปาง และจังหวัดพะเยา

ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจังหวัดพะเยา

ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ประเทศสหภาพพม่า และจังหวัดเชียงใหม่




วิสัยการพัฒนาของจังหวัดเชียงราย

“เชียงราย : ประตูทองของวัฒนธรรมล้านนา และการค้าสู่สากล”

Chiangrai : Global Golden Gateway of Lanna Culture and International Trade

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

อำเภอเทิง

ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาม่อน
            เป็นศูนย์ส่งเสริมการเพาะปลูกดอกไม้เมืองหนาว มีดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ หลายชนิดมีทั้งปลูกในโรงเรือนและปลูกลงแปลงกลางแจ้ง นอกจากดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ แล้วภายในศูนย์เกษตรยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม ศูนย์เกษตรแห่งนี้เปิดให้ต้อนรับให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
            ---------------------------------------------------------

อำเภอเวียงป่าเป้า

เวียงกาหลง

           อยู่ห่างจากที่ว่าการอ.เวียงป่าเป้าประมาณ 16 กม. โดยแยกจากถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ บริเวณบ้านแม่เจดีย์ไปทางอ.วังเหนือประมาณ 3 กม. ในบริเวณเวียงกาหลงนี้มีซากเตาทำเครื่องถ้วยชามอยู่หลายแห่ง เรียกกันว่า เตากาหลง ลักษณะของเตาก่อด้วยอิฐในพื้นที่ราบเป็นรูปประทุนเหมือนกระดองเต่า ขนาดเล็กวัดได้กว้างราว 2 ม. ยาว 3 เมตร ขนาดใหญ่กว้าง 4-5 ม. ยาว 7-9 ม. มีทางเข้าด้านหน้าทางเดียว
           -----------------------------------------------------------


บ่อน้ำร้อนโป่งเทวี

            อยู่ที่ต.แม่เจดีย์ใหม่ ถ.สายเชียงราย-เชียงใหม่ กม.ที่ 64-65 มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ 2 บ่อ ในบริเวณมีชาวบ้านนำไข่มาขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวทดสอบต้มในบ่อน้ำร้อน
          ----------------------------------------------------------
 

อุทยานแห่งชาติขุนแจ
              เดินทางไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-เชียงราย (ทางหลวงหมายเลข 118) จะถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งตั้งอยู่ริมทางบริเวณ กม.ที่ 55-56 ผู้ประสงค์จะเดินทางท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ตามเส้นทางเดินป่า ซึ่งผ่านน้ำตกและยอดดอยต่างๆ จำเป็นต้องอาศัยคนนำทางและต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับค้างแรมมาเอง โดยติดต่อทำหนังสือถึงอุทยานแห่งชาติขุนแจ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย 57260 ล่วงหน้าเป็นเวลา 15 วันก่อนเดินทาง
            -------------------------------------------------------

อำเภอพาน

อุทยานแห่งชาติดอยหลวง
            มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อ.แม่สรวย อ.พาน อ.เวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อ.วังเหนือ จังหวัดลำปางและอ.แม่ใจ อ.เมือง จังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ประมาณ 1,170 ตรกม. หรือ 731,250 ไร่ สภาพภูมิประเทศเป็นเขาสูงทอดตัวแนวเหนือ-ใต้ มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าเต็งรังปะปนกัน มีสัตว์ป่า และนกหลายชนิด
            ---------------------------------------------------------


น้ำตกปูแกง
             มีความสูง 9 ชั้น น้ำไหลตลอดปี มีเส้นทางเดินป่า ติดต่อได้ที่ อุทยานฯ ฤดูที่เหมาะสำหรับการเดินป่าอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายน
             ---------------------------------------------------------
น้ำตกจำปาทอง
          อยู่อำเภอเมือง เป็นน้ำตกสูงชัน น้ำใสสะอาด น้ำตกลงมาเป็นชั้นๆ คล้ายงาช้างบ้าง หัวช้างบ้าง มีชื่อเรียกตามลักษณะ เช่น วังจำปา ตาดหัวช้าง ฯลฯ เดินทางจากทางหลวงสายพะเยา-เชียงราย ตรงหลักกม.ที่ 7 มีทางแยกเป็นลูกรังเข้าไปยังตัวน้ำตก ระยะทางประมาณ 16 กม.
          ----------------------------------------------------------
น้ำตกวังแก้ว
            เป็นน้ำตกที่ใหญ่ ที่สุดในดอยหลวง และจังหวัดลำปาง อยู่ในท้องที่อำเภอวังเหนือ ตั้งอยู่ในบริเวณ ป่าที่มีสภาพ อุดมสมบูรณ์ ประกอบลักษณะพื้นที่เป็นเขาสูงชันทำให้มีปริมาณน้ำมากไหลแรง และมีถึง 102 ชั้น สามารถเดินทางจากจังหวัดพะเยาได้สะดวก โดยใช้เส้นทางสายพะเยา-อำเภอวังเหนือ และจากอำเภอวังเหนือมีทางลาดยาง ระยะทางประมาณ 25 กม. ถึงน้ำตกวังแก้ว
             -------------------------------------------------------
พระธาตุจอมแว่
           อยู่บนภูเขาจอมแว่ หมู่ที่ 2 ต.เมืองพาน 3 กม. เป็นพระธาตุที่มีประชาชนชาวอ.พานและอ.ใกล้เคียงนับถือกันว่าเป็นพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ เมื่อถึงเดือน 8 เหนือ หรือเดือน 9 ใต้ ขึ้น 15 ค่ำ จะมีงานนมัสการองค์พระธาตุทุกปี
           ----------------------------------------------------------
น้ำตกถ้ำผาโขงและถ้ำน้ำลอด

 
           อยู่ที่บ้านปางเกาะทราย หมู่ที่ 6 ต.ป่าหุ่ง ห่างจากอ.พานประมาณ 15 กม. โดยผ่านหลังที่ว่าการอ.พานไปทางทิศตะวันตก มีน้ำไหลใสสะอาดตลอดปี
          -----------------------------------------------------------

ถ้ำผายาว
           อยู่หมู่ที่ 8 ต.ม่วงคำ จากถนนพหลโยธิน สายอ.พาน-พะเยา มีทางแยกตรงบ้านม่วงคำไปประมาณ 5 กม. เป็นถ้ำใหญ่ปากถ้ำกว้างถึง 20 เมตร ลึก 520 ม.
          ----------------------------------------------------------


พระธาตุสามดวง
            เป็นศาสนสถานที่สำคัญแห่งหนื่ง ในอ.พาน อยู่ในพื้นที่ระหว่างบ้านป่าหุ่ง หมู่ที่ 1 กับบ้านศาลาเหมืองหิน หมู่ที่ 11 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน ห่างจากที่ทำการ อ.พาน ไปทางทิศตะวันตก ระยะทาง 12 กม. ภายในบริเวณวัดมีพระธาตุตั้งอยู่ 3 องค์ แต่ละองค์ตั้งห่างกันประมาณ 100-200 เมตร และตั้งอยู่บนเนินสูงลดหลั่นกันลงไป ตามตำนานเล่าว่าพระธาตุองค์นี้สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.1839 ต่อมาได้มีการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2476 โดยคณะศิษยานุศิษย์ของครูบาศึลธรรมกับครูบาไชยาเพื่อใช้เป็นที่อยู่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ในบริเวณพระธาตุสามดวงจะมองเห็นทิวทัศน์ของตัวอ.พาน ได้อย่างสวยงาม
          ----------------------------------------------------------





อำเภอเวียงแก่น

ดอยผาตั้ง
            เฉพาะช่วงเดือนธันวาคม ถึงมกราคม ดอกซากุระจะบานสะพรั่งงดงาม เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้งและเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และ ชา
           ---------------------------------------------------------


ภูชี้ฟ้า
             เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากดอยผาตั้งลงมาทางทิศใต้ 20 กม. มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้างถึง 1 ตรกม. โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว มองเห็นหมู่บ้านลาวที่เรียกว่า เชียงตอง
             --------------------------------------------------------

อำเภอเชียงของ

หาดจับปลาบึก
           อยู่ที่บ้านหาดไคร้ หมู่ที่ 12 ต.เวียง ซึ่งเป็นแหล่งจับปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของ จังหวัด โดยมีฤดูการจับอยู่ในระหว่างกลาง เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ในแต่ละปีมีการผสมพันธุ์ปลาบึก ที่สถานประมงเชียงของเพื่อนำพันธุ์ปลาบึกที่ผสมได้ แจกจ่ายปล่อยตามแหล่งน้ำสาธารณะต่าง ๆ ทั่วประเทศ
           ----------------------------------------------------------


บ้านหาดบ้าย

           อยู่ระหว่างเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ เป็นถนนเลียบแม่น้ำโขง เป็นหมู่บ้านของชาวไทยลื้อที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันงดงามน่าสนใจโดยเฉพาะฝีมือการทองผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงจาก อ.เชียงของ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหางยาวไปได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. และยังได้ชมทัศนียภาพสองฝั่งโขงอันสวยงามอีกด้วย
           ---------------------------------------------------------



ท่าเรือบั๊ค

              จุดผ่านแดนไทย-ลาว ริมฝั่งแม่น้ำโขง มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาวได้ชัดเจน และสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปฝั่งลาวได้ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น. ติดต่อกรอกแบบฟอร์มขอผ่านแดนได้ที่ศูนย์อำนวนการรักษาความมั่นคงภายใน ในบริเวณที่ว่าการอ.เชียงของได้ทุกวัน เตรียมรูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป และสำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด พร้อมเงินค่าธรรมเนียม 10 บาท นอกจากน้ำแล้วในช่วงฤดุร้อน ระหว่างเดือนเมษายนจะมีการจัดงานรื่นเริงและร้านค้าตามชาตหาดริมฝั่งแม่น้ำโขงเป็นประจำทุกปี
              --------------------------------------------------------

อำเภอเชียงแสน

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน

           ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมือง เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุที่ได้จากบริเวณเชียงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ลวดลายปูนปั้นฝีมือล้านนา พระพุทธรูปและศิลาจารึกจากเชียงแสนและจากพะเยา พร้อมทั้งให้ข้อมูลทางด้านวิชาการเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีการตั้งถิ่นฐานของชุมชน และประวัติการสร้างเมืองเชียงแสน นอกจากนี้ยังมีการจัด แสดงศิลปะพื้นบ้านของ ชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อ และชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ เครื่องเขิน เครื่องดนตรี เครื่องประดับ อุปกรณ์การสูบฝิ่น เป็นต้น เปิดทำการตั้งแต่เวลา ๙.๐๐- ๑๖.๐๐ น. ทุกวัน เว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
              ------------------------------------------------------

วัดพระธาตุจอมกิตติ
             อยู่ในท้องที่อำเภอเชียงแสน ตั้งอยู่บนเนินเขานอกกำแพง มีทางแยกซ้ายมือเข้าไปประมาณ ๑.๗ กม. สร้างสมัยเดียวกับ พระธาตุจอมทองของเชียงราย เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในเจดีย์ก่อเหลี่ยมไม้สิบสอง สมัยเชียงแสน
             -------------------------------------------------------


พระธาตุดอยปูเข้า
            แยกจากเส้นทางเชียงแสน-สบรวก ก่อนถึงสามเหลี่ยมทองคำเล็กน้อย รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงยอดเขา หรือจะเดินขึ้นบันได้ก็ได้ พระธาตุนี้สร้างขึ้นบนดอยเชียงเมื่ยงริมปากน้ำรวก เมื่อ พ.ศ. 1302 ในสมัยพระยาลาวเก้าแก้วมาเมือง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งเวียงหิรัญนครเงินยางโบราณสถานประกอบด้วยลวดลายปูนปั้น นอกจากนี้บนดอยเชียงเมี่ยงยังสามารถมองเห็นสามเหลี่ยมทองคำได้ชัดเจน
           ----------------------------------------------------------


วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
         ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ สถานแห่งชาติเชียง แสนด้านทิศตะวันออก สร้างโดยพระเจ้าแสนภู เมื่อประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๙ โบราณสถานประกอบด้วย เจดีย์ประธาน ทรงระฆังแบบล้านนา สูง ๘๘ ม. ฐานกว้าง ๒๔ ม. เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สุดในเชียงแสน นอกจากนี้มี พระวิหาร ซึ่งเก่าแก่มากพังทลายเกือบหมดแล้ว และ เจดีย์ราย แบบต่างๆ ๔ องค์
            --------------------------------------------------------
 

วัดป่าสัก

            อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงแสนประมาณ ๑ กม. ในเขต ต.เวียง พระเจ้าแสนภูทรงสร้างเมื่อ พ.ศ. 1838 และให้ปลูกต้นสักล้อมกำแพง 300 ต้น วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดป่าสัก" ภายในวัดมี โบราณสถานที่สำคัญคือ เจดีย์ประธานทรงมณฑปยอดระฆัง ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นอันวิจิตร มีฐานกว้าง 8 ม. สูง 12.5 ม. เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวาจากเมืองปาฏลีบุตร
            -------------------------------------------------------
 

พระธาตุผาเงา

            อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสนไปตามเส้นทางเชียงแสน-เชียงของ ประมาณ 4 กม. อยู่ตรงข้ามโรงเรียนสบคำ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมมีเนื้อที่ 143 ไร่ มีเจดีย์ทรงระฆังขนาดเล็กตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่ วิหารปัจจุบันสร้างทับซากวิหารเดิม บนยอดเขาข้างหลังวัด เป็นที่ตั้งของพระบรมพุทธนิมิตรเจดีย์ที่มองเห็นทิวทัศน์สวยงามได้โดยรอบ
           --------------------------------------------------------
 

สบรวก
                 ดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงแสนไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขงระยะทาง ๙ กม. ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นดินของ ๓ ประเทศได้มาพบกัน คือ ไทย พม่า ลาว โดยมีแม่น้ำรวกกั้นอาณาเขตระหว่างไทยและพม่า และแม่น้ำโขงกั้นอาณาเขตระหว่างไทยและลาว ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นไร่ฝิ่นที่ใหญ่โตมาก แต่ปัจจุบันไม่มีไร่ฝิ่นอีกแล้ว เหลือคงแต่ทิวทัศน์ที่เงียบสงบของลำน้ำและเขตแดนของ 3 ประเทศเท่านั้น ที่นี่ยังมีบริการเรือให้เช่าเพื่อเดินทางไปชมทิวทัศน์บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ใช้เวลา 20 นาที และยังสามารถเช่าเรือจากสบรวกไปยังเชียงแสนและเชียงของได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีและ 1 ชม.ครึ่งตามลำดับ
           -----------------------------------------------------------
วัดสังฆาแก้วดอนหัน

          มีประวัติว่า สร้างโดยพรเจ้าลวจักราช เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 12 แต่หลักฐานที่พบแสดงว่ามีอายุอยู่ในช่วงไม่เกินพุทธศตวรรษที่ 21 กรมศิลปากรได้ขุดพบหลักฐานที่พบแสดงว่ามีอายุอยู่ในช่วงไม่เกิน พุทธศตวรรษที่ 21 กรมศิลปากรได้ขุดพบภาพขูดขีดบนแผ่นอิฐเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระชาติของพระพุทธเจ้า ตอนพระเวสสันดรชาดก เช่น พระเวสสันดรเดินป่า ชูชกเฝ้าพระเวสสันดร เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนจิตรกรรมฝาผนังที่หลุดพังมาจากผนังวิหารมีสภาพแตกหัก แต่ยังคงเหลือลักษณะของสีและตัวภาพซึ่งใช้สีชาดและสีแดงเพียง 2 สี นับได้ว่าเป็นการค้นพบที่สำคัญทางวิชาการอย่างยิ่ง

            -------------------------------------------------------
วัดพระเจ้าล้านทอง
             อยู่ในเขตกำแพงเมือง เจ้าทองงั่ว ราชโอรสพระเจ้าติโลกราชเป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2032 ได้ทรงหล่อพระพุทธรูปองค์หนื่งหนักล้านทอง (1,200 กก.) ขนานนามว่า พระเจ้าล้านทอง เป็นพระประธานหน้าตักกว้าง 2 ม. สูง 3 ม.เศษ ในวัดนี้ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งได้มาจากวัดทองทิพย์ซึ่งเป็นวัดร้าง เรียกกันว่า พรเจ้าทองทิพย์เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง พระพักตร์งดงามมาก ลักษณะเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 1 ศอก 15 นิ้ว สูง 2 ศอก 10 นิ้ว
            ------------------------------------------------------

ทะเลสาบเชียงแสน
             เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลโยนก ในเขตอำเภอเชียงแสน ตามทางสายเชียงแสน-แม่จันไปประมาณ ๕ กม. แยกซ้ายตรงกม.ที่ ๒๗ เข้าไปอีก ๒ กม. ในฤดูหนาวจะมี ฝูงนกน้ำอพยพมาอาศัย ริมทะเลสาปมีร้านอาหารและที่พัก
                      -------------------------------------------------

อำเภอแม่สาย

ตลาดแม่สาย
           อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 62 กม.อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 62 กม. ตามทางหลวงหมายเลข 110 เป็นอำเภอเหนือสุดของประเทศไทย ติดต่อกับประเทศพม่าที่ท่าขี้เหล็ก โดยมีแม่น้ำแม่สายเป็นพรมแดน มีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน ทั้งชาวเขาและชาวพม่าเดินทางไปมาหาสู่ค้าขายกันโดยเสรี นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปยังท่าขี้เหล็กของพม่าเพื่อซื้อสินค้าพื้นเมืองและสินค้าราคาถูกอื่นๆ เช่น ตะกร้า เครื่องทองเหลือง สบู่พม่า สมุนไพร บุหร่ ฯลฯ นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าเขตพม่า ได้ตั้งแต่เวลา 6.00-18.00 น. โดยนำบัตรประชาชนและเสียค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท ที่จุดผ่านแดน (สำหรับชาวต่างประเทศ 5 เหรียญสหรัฐ และใช้พาสปอร์ต ติดต่อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย )
             ---------------------------------------------------------


ถ้ำปุ่ม ถ้ำปลา ถ้ำเสาหินพญานาค

          ตั้งอยู่ที่ดอยจ้อง หมู่11 ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย ห่างจากอำเภอแม่สายไปทางทิศใต้ตามทางหลวงหมายเลข 110 ประมาณ 12 กิโลเมตร มีทางแยกเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ดอยจ้องเป็นภูเขาหินปูนจึงประกอบด้วย ถ้ำหินงอก หินย้อย และทางน้ำไหลมากมาย



ถ้ำปุ่ม นั้นอยู่สูงขึ้นไปยอดเขา ต้องปีนขึ้นไป ภายในถ้ำมืดมาก ต้องมีผู้นำทางเที่ยวชม


ถ้ำปลา เป็นถ้ำหนึ่งที่มีน้ำไหลภายในถ้ำ เคยมีปลาชนิดต่าง ทั้งใหญ่น้อยว่ายออกมาให้เห็นเป็นประจำ ภายในถ้ำยังมีพระพุทธรูปศิลปะพม่า สร้างขึ้นโดยพระภิกษุชาวพม่า เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ประชาชนทั่วไปเรียกว่า "พระทรงเครื่อง" เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนในแถบนี้
ถ้ำเสาหินพญานาค อยู่ในบริเวณเดียวกัน เดิมต้องพายเรือข้ามน้ำเข้าไปชม ภายหลังได้สร้างทางเดินเชื่อมกับถ้ำปลา เป็นระยะทาง 150 ม. ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วย
              -------------------------------------------------------

พระธาตุดอยเวา


           ตั้งอยู่หมู่ที่1 ต.แม่สาย บนดอยริมฝั่งแม่น้ำสายตามประวัติกล่าวว่า พระองค์ วาหรือเว้าผู้ครองนครนาคพันธ์ เป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 364 นับเป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่องค์หนึ่งรองมาจากพระบรมธาตุดอยตุง
            ---------------------------------------------------------
 

ถ้ำผาจม

                ตั้งอยู่หมู่ที่1 ต.แม่สาย อยู่ห่างจากอ.แม่สายไปทางทิศเหนือประมาณ 1.5 กม. ถ้าผาจมตั้งอยู่บนดอยอีกลูกหนึ่ง ทางทิศตะวันตกของดอยเวา ติดกับแม่น้ำสาย เคยเป็นสถานที่ซึ่งพระภิกษุสงฆ์นั่งบำเพ็ญเพียรภาวนา เช่น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปัจจุบันมีรูปปั้นของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ประดิษฐานไว้บนดอยด้วย ภายในถ้ำผาจมมีหินงอกหินย้อยอยู่ตามผนังและเพดานถ้ำ สวยงามวิจิตรตระการตา
           ----------------------------------------------------------
 

ขุนน้ำนางงอน

           อยู่ที่บ้านจ้อง หมู่1 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ห่างจากอำเภอแม่สายไปทางทิศใต้ ตามทางหลวงหมายเลข 110 ไปประมาณ 7 กม. แล้วแยกทางขวาเข้าไป 2 กม. เป็นแอ่งน้ำไหลจากถ้ำบริเวณเชิงดอยจ้องซึ่งมีหลายถ้ำ น้ำในแอ่งใสเย็น สภาพแวดล้อมร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่น้อย ประชาชนในท้องถิ่นนิยมเข้ามาพักผ่อน
           --------------------------------------------------------

อำเภอแม่ฟ้าหลวง

พระตำหนักดอยตุง
            อยู่บริเวณ กม. ที่ 12 ทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระ-ตำหนักเป็นอาคารสองชั้น มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของสวิส มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ ฝีมือช่างชาวเหนือ
           ------------------------------------------------------


สวนแม่ฟ้าหลวง

            อยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ ออกแบบเป็นรูปลายผ้าพื้นเมืองใช้ต้นซัลเวียดอกสีแดง ขาว และม่วงเข้มสวยสดสะดุดตามาก ตรงกลางมีรูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือปั้นของคุณมีเซียมยิปอินซอย นอกจากจะใช้ไม้ใบไม้ดอก แล้วยังใช้ไม้ยืนต้น และซุ้มไม้เลื้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด จัดทางเดินไว้เป็นสัดส่วนมีศาลาชมวิวและร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง สวนแม่ฟ้าหลวงสร้างโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00-18.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 20 บาท
              ----------------------------------------------------
 

พระธาตุดอยตุง
            ตั้งอยู่บริเวณ กม.ที่ 17.5 ของทางหลวงหมายเลข1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย(กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งนำมาจากมัธยมประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่ พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทยเมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรม-สารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็กำหนดหมายเป็นฐานพระสถูปเพียงนั้นด้วยเหตุนี้ ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทยจึงปรากฏนามว่า ดอยตุงจนบัดนี้ พระธาตุดอยตุงประดิษฐานอยู่ในกิ่งอำเภอแม่ฟ้า หลวงเป็นปูชนียสถานที่สำคัญ เมื่อถึงเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยตุงนี้ จะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศใกล้เคียง เช่น ชาวเชียงตุงในรัฐฉาน ประเทศสหภาพพม่า ชาวหลวงพระบางเวียงจันทน์ เดินทางเข้ามานมัสการทุกปี
               -----------------------------------------------------


สถูปดอยช้างมูบ
             ตั้งอยู่บนดอยช้างมูบ ริมถนนสายพระธาตุดอยตุง บ้านผาหมี ห่างจากทางแยกวัดน้อยดอยตุงประมาร 4 กม. ตำนานสิงหนวัติ และตำนานโยนกนาคพันธ์กล่าวถึงดอยช้างมูบว่า ในรัชกาลที่ 10 พระเจ้าชาติราย ได้มีกัมระปติสะโลเทพบุตร นำไม้นิโครธมาปลูก ณ ดอยช้างมูบ ต้นไม้นั้นเมื่อโตได้สูง 7 ศอก ได้แตกสาขาเป็น 4 กิ่ง สามารถให้ร่มเงาให้แก่คนได้ 20 คน ประชาชนมีความเชื่อว่าหากนำไม้มาค้ำกิ่งนิโครธน้ำจะทำให้บรรลุความปรารถนาเช่นเดียวกับต้นกัลปพฤกษ์ กล่าวคือ ทิศตะวันออก ได้บุตรสมประสงค์ ทิศเหนือได้ทรัพย์ ทิศตะวันตกเจริญรุ่งเรือง และทิศใต้อายุยืนนาน ปัจจุบันคงเหลือเพียงพระสถูปช้างมูบเป็นเจดีย์ขนาดเล็กตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนช้างหมอบอยู่ สภาพโดยเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ และต้นสนซึ่งใช้ปลูกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ
              ------------------------------------------------------
<>
จุดชมวิว
           บริเวณดอยตุงมีจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง ริมทางหลวงหมายเลขที่1149 มีจุดชมวิวที่กม. 12 และกม.14 นอกจากนี้ตามเส้นทาง วัดน้อยดอยตุง-บ้านผาหมี ซึ่งเป็นถนนซึ่งทอดยาวไปตามแนวเขาผ่านยอดดอยหลายลูก มีจุดชมวิวซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ ได้กว้างไกล เช่น จุดชมวิวบนดอยช้างมูบ ดอยผาฮี้ และดอยผาห่ม
          ----------------------------------------------------

อำเภอแม่จัน

ดอยแม่สลอง
         เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคีรี เดิมชื่อ บ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนของผู้อพยพจากกองพล 93 ที่ถูกทางการพม่าปราบปรามอย่างรุนแรง จนหนีเข้ามาในเขตไทย 2 กองพัน คือ กองพันที่ 3 เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ 5 อยู่ที่บ้านแม่สลองนอกตั้งแต่ ปี 2504
ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ จะมี ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุดสีชมพูอมขาว บานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่เคยหาชมได้ยากในเมืองไทย
             ------------------------------------------------------
หมู่บ้านอีก้อดอยแสนใจ


           จากศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ดอยแม่สลอง จะมีทางเดินแยกไปอีกเป็นระยะทาง 5 กม.ถึงหมู่บ้านอีก้อ ดอยแสนใจเป็นหมู่บ้านใหญ่ ชาวเขาเผ่าอีก้อมีเครื่องแต่งกายที่สวยงาม และมีประเพณีที่น่าสนใจคือ ประเพณีโล้ชิงช้า ซึ่งจัดขึ้นในราวเดือนสิงหาคมของทุกปี การเดินทางไปยังหมู่บ้านอีก้อควรใช้รถที่มีกำลังเครื่องยนต์สูง เพราะทางขึ้นค่อนข้างสูงชัน
            ------------------------------------------------

                                 ดอยหัวแม่คำ



           จากเชียงรายใช้เส้นทางเดียวกับทางขึ้นดอยแม่สลอง แต่เมื่อเดินทางถึงบ้านอีก้อสามแยกแล้ว แยกเข้าเส้นทางที่ไปบ้านเทอดไทย จากนั้นจะพบทางแยกอีกครั้ง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านห้วยอิ้น ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านชาวเขาซึ่งตั้งอยู่เป็นระยะ บ้านหัวแม่คำอยู่เกือบสุดชายแดนพม่า เส้นทางเป็นทางลูกรัง คดโค้งไปมาตามทิวเขา ใช้เวลาเดินทางราว 3-4 ชม. ดอยหัวแม่คำเป็นที่ตั้งหมู่บ้านชาวเขาขนาดใหญ่ประกอบด้วยเผ่าลีซอ อีก้อ ม้ง และมูเซอ ในช่วงเวลาซึ่งตรงกับวันตรุษจีนของทุกปี ชาวลีซอจะจัดงานประเพณีกินวอ ในวันนั้นชาวลีซอจะแต่งกายสวยงาม มีการกินเลี้ยง เต้นระบำ รื่นเริง เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน และในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงท ี่ดอยหัวแม่คำบานงดงามไปด้วยดอกบัวตองบานสีเหลืองสดใสบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปตามแนวเขา
            --------------------------------------------------------

อำเภอเมืองเชียงราย

อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย

             ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย บริเวณทาง แยกที่จะไปอ.แม่จัน พ่อเม็งรายเป็น กษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงค์ลวะ เป็นโอรสของพระเจ้าลาวเม็ง และพระนางเทพคำขยาย หรือพระนางอั้วมิ่งจอมเมือง ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ พุทธศักราช 1781 หลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์ได้ 1 ปี พระองค์ทรงสร้างเมืองเชียงรายเป็นเมืองหลวงแทนหิรัญนครเงินยางและเสด็จสวรรคตในปีพุทธศักราช 1860
                   ------------------------------------------------

วัดพระสิงห์
               ตั้งอยู่ ถนนสิงหไคล ริมแม่น้ำกกใกล้ศาลากลางจังหวัด แต่เดิมเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์องค์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารลายคำ วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เจ้ามหาพรหม พระอนุชาของพระเจ้ากือนากษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจาก เมืองกำแพงเพชร พระเจ้ากือนาได้โปรดฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ เมืองเชียงใหม่ ต่อมาพระเจ้ามหาพรหม ทูลขอยืมพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ที่เมืองเชียงราย เพื่อหล่อจำลอง แต่เมื่อสิ้นบุญพระเจ้ากือนา และพระเจ้าแสนเมือง ราชนัดดาของพระองค์ได้เสด็จขึ้นครองเมืองเชียงใหม่ เจ้ามหาพรหม คิดจะชิงราชสมบัติจึงยกกองทัพจากเชียงราย ไปประชิดเมืองเชียงใหม่ แต่เจ้าแสนเมืองก็สามารถป้องกันเมืองได้อีก ทั้งยกทัพตีทัพเจ้ามหาพรหมมาถึงเชียงราย และครั้งนี้เองที่ทรงอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์คืนกลับไปประดิษฐานอยู่ที่พระสิงห์เชียงใหม่สืบมา วัดนี้นอกจากเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์แล้ว ยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองบนแผ่นศิลากว้าง 5 นิ้ว ยาว 2 ฟุต มีอักษรขอมโบราณจารึกว่า "กุศลาธมมา-อกุศลาธมมา" สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช
                      -----------------------------------------------

วัดร่องขุ่น
             วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่มีความสวยงามโดดเด่นต่างจากวัดอื่นๆ ด้วยฝีมือการออกแบบ และก่อสร้างของ อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง เพื่อเป็นวัดประจำบ้านเกิด สร้างโดยจินตนาการของอาจารย์ จัดเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงามน่าแวะชมมากแห่งหนึ่ง
                   -----------------------------------------------

น้ำตกขุนกรณ์

อยู่บนเทือกเขาดอยช้าง ต.แม่กรณ์ ห่างจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข1211 ประมาณ 18 กม. เลี้ยวขวาเข้าไป 12 กม. หรือไปตามทางหลวงหมายเลข1 สายเชียงราย-พะเยา ประมาณ 15 กม. จะมีป้ายแยกขวาไปอีก 17 กม. ถึงที่ทำการวนอุทยานฯ แล้วเดินเท้าไปยังตัวน้ำตกอีกประมาณ 30 นาที น้ำตกขุนกรณ์เป็นน้ำตกที่สูงและสวยที่สุดของจังหวัดเชียงราย ชาวบ้านเรียกว่า "น้ำตกตาดหมอก" มีความสูงถึง 70 ม.สองข้างทางที่เดินเข้าสู่ตัวน้ำตกเป็นป่าเขาธรรมชาติร่มรื่น

                  ----------------------------------------------------

วัดพระแก้ว

              อยู่ใจกลางเมืองเชียงราย ที่ถนนไตรรัตน์ เป็นที่ค้นพบพระแก้วมรกตหรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๗๙ ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดนี้เป็นที่ประดิษฐาน "พระหยก" ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในวาระครบ ๙๐ พรรษา ของสมเด็จพระศรีนครินทรบรมราชชนนี
              ---------------------------------------------------


ไร่แม่ฟ้าหลวง

            เป็นมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านป่างิ้ว ต.รอบเวียง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 4 กม. โดยใช้เส้นทางผ่านหน้าค่ายเม็งรายมหาราชไปทางวัดฮ่องลี่ สำหรับที่มาครั้งแรกนั้นได้มีโครงการให้การศึกษาแก่ชาวเขาในลักษณะเดินสอนเกิดขี้น ต่อมาเปลี่ยนแนวความคิดที่จะนำชาวเขาเข้ามาทำการศึกษาในตัวเมืองโดยเข้าศึกษา ในโรงเรียนทั่วไป เพื่อที่เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้กลับไปให้ความรู้แก่ชุมชนเดิมต่อไป หลักจากนั้นได้ถวายโครงการดังกล่าวแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีฯ และจัดตั้งเป็นมูลนิธิไร่แม่ฟ้าหลวงขึ้น
             --------------------------------------------------------
                                 ศูนย์หัตกรรม
 

           ตั้งอยู่ เลขที่ 273 หมู่ 5 ถนนพหลโยธิน จากตัวเมืองไปตามเส้นทางไปอ.แม่จัน ประมาณ ๓ กม. (ติดถนนใหญ่ด้านขวามือ) มีการสาธิตการทอผ้า และทำเซรามิก จำหน่ายสินค้าที่ผลิตในศูนย์ฯ และสินค้าจากพม่า เปิดให้นำท่องเที่ยวเข้าชมการทำงานและซื้อสินค้าได้ทุกวัน
             -------------------------------------------------
กู่พระเจ้าเม็งราย
          ตั้งอยู่หน้าวัดงำเมือง บนดอยงำเมือง กู่นี้เป็นอนุสาวรีย์สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุอัฐิของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ตามประวัติกล่าวว่าพระเจ้าไชยสงคราม ราชโอรสพระเจ้าเม็งราย เมื่อได้มอบราชสมบัติให้พระเจ้าแสนภูราชโอรสให้ขึ้นครองนครเชียงใหม่แล้ว พระองค์ได้นำอัฐิพระราชบิดามาประทับอยู่ที่เมืองเชียงราย และได้โปรดเกล้าฯ สร้างกู่บรรจุอัฐิของพระราชบิดาไว้ ณ ดอยงำเมืองแห่งนี้
            ----------------------------------------------------

วัดพระธาตุดอยจอมทอง
           อยู่บนดอยจอมทองริมฝั่งแม่น้ำกก ในเขตตัวเมืองเชียงราย ตามตำนานเล่าว่าเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่มีก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะทรงสร้างเมืองเชียงราย โดยเล่าว่าพระยาเรือนแก้วผู้ครองนครไชยนารายณ์ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1483 สันนิษฐานว่า เมื่อพ่อขุนเม็งรายทรงพบชัยภูมิที่สร้างเมืองเชียงรายจากดอยจอมทองนั้นคงจะมีการบูรณะองค์พระธาตุใหม่พร้อมๆ กับการสร้างเมืองเชียงราย นับว่าพระธาตุดอยจอมทองเป็นปูชนียสถานสำคัญในตัวเมืองเชียงรายแห่งหนึ่ง
             --------------------------------------------------------
                       สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ เชียงราย

          ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ ๘ กม. บนเส้นทางเชียงราย-แม่จัน เข้าไปทางด้านหลังสถาบันราชภัฏเชียงราย ภายในสวนมีทัศนียภาพสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นในเนื้อที่ 620 ไร่ มีหนองบัวที่กว้างขวางถึง 223 ไร่ ซื่งเป็นส่วนที่ทำให้สถานที่แห่งนี้น่าไปพักผ่อนหย่อนใจเพราะน้ำในหนองบัวใสเย็น และเต็มเปี่ยมตลอดปีบนพื้นที่รอบหนองบัวเป็นที่ตั้งของพลับพลา ศาลาพักแดดและมีสวนปาล์ม สวนไผ่อยู่บนที่ลาดเนินเขา
              -----------------------------------------------------

แม่น้ำกก
              เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงราย มีความยาวรวมทั้งสิ้น ๑๓๐ กม. นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือริมแม่น้ำจากตัวเมืองเพื่อท่องเที่ยวชมทัศนียภาพของแม่น้ำกก ซึ่งสองฟากฝั่งเป็นป่าเขาที่สวยงามตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถแวะชมหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่นอีก้อ ลีซอ กะเหรี่ยง ฯลฯ หรือแวะปางช้างเพื่อนั่งช้างเที่ยวป่ารอบบริเวณนั้นก็ได้ อัตราค่าเช่าเหมาเรือขึ้นอยู่กับระยะทาง [ล่องแก่งแม่กก เชียงราย-ท่าตอน]
            -------------------------------------------------------